“เบียร์ ใบหยก” ชี้ธุรกิจอยู่กับที่ไม่ได้ แต่อย่าลงทุนเกินตัว ต้องซื่อสัตย์กับลูกค้า
2025-10-31 HaiPress

กลุ่มใบหยก ชี้ธุรกิจโรงแรมต้องปรับตัว หาโอกาสตลาดใหม่ๆ ชี้ธุรกิจอยู่กับที่ไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญอย่าลงทุนเกินตัว ต้องทำธุรกิจอย่างจริงใจซื่อสัตย์กับลูกค้า คนรุ่นใหม่ต้องฟังคนรุ่นเก่าที่มีประสบการณ์มากกว่า
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 30 ต.ค. 68 ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ “เดลินิวส์” ได้จัดงานเสวนา “เดลินิวส์ ทอล์ก 2025” ในหัวข้อ “ปีนี้รอดมาได้อย่างไร…ปีหน้าเติบโตอย่างไรให้มั่นคง?” โดยได้รับเกียรติจาก นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง ร่วมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อเศรษฐกิจไทยปี 2569 : อยู่ให้รอดได้อย่างไร โดยมี นายปารเมศ เหตระกูล นางสิริวรรณ พันธุ์ปรีชากิจ กรรมการบริหาร นายนต รุจิรวงศ์ เลขานุการกรรมการบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายผลิต นายนนท์ รุจิรวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและจัดจำหน่าย และ น.ส.นลิน รุจิรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ (EVP) ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและการตลาด เดลินิวส์ ร่วมให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ในเวทีเสวนาครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก น.ส.ทานตะวัน ธีระโกเมน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นายวสุพล ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดและฝ่ายขายในประเทศ บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยเพรซิเด้นท์ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) นายปิยะเลิศ ใบหยก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มโรงแรมใบหยก และบริษัท เอฟเอบี ฟู้ด โฮดิ้ง และนายกันตพร หาญพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท บางกอกเชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์การดำเนินธุรกิจ ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงเพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง
นายปิยะเลิศ ใบหยก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มโรงแรมใบหยก และบริษัท เอฟเอบี ฟู้ด โฮดิ้ง กล่าวว่า ธุรกิจที่ผ่านมาเหนื่อย ซึ่งธุรกิจโรงแรม ขึ้นอยู่กับจำนวนนักท่องเที่ยว แต่เราชินแล้ว เพราะประเทศไทยการเมืองไม่นิ่ง ท่องเที่ยวก็จะสะดุด เพราะภาคท่องเที่ยวต้องพึ่งต่างชาติเข้ามา ธุรกิจโรงแรม ไม่มีอะไรยากเท่าโควิด ตอนนั้น คือ นักท่องเที่ยวเหลือศูนย์กลุ่มใบหยก ก็ต้องปรับตัว ไปส่งอาหารเดลิเวอรี ทำ Hospitel หรือสถานพยาบาลผู้ป่วยเฉพาะกิจ ไม่ได้มีให้พนักงานออก มีคนออก ก็ไม่รับคนเข้า หลังช่วงโควิด คิดว่าจะดีขึ้นแต่ก็ยังไม่ดีจึงต้องมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งธุรกิจโรงแรมในไทยแปลก ซึ่งในฮ่องกง โรงแรมขึ้นราคาทุกปี แต่ในไทยกลับมีราคาถูกลง มีการตัดราคา แข่งขันกัน สงครามราคาที่เกิดขึ้น ไม่แฮบปี้เท่าไร เราไม่ต้องการให้ลูกค้าได้ราคาถูก แต่ต้องไปลดบริการตัดสินค้าบางอย่างออก เราอยากให้ลูกค้าได้บริการเท่าราคาที่จ่าย

“ตอนนี้กลุ่มใบหยก มีโรงแรมกว่า 10 กว่าแห่ง มีผลประกอบการดีและยังไม่ดีอยู่ เหมือนร้านอาหารทั่วไป จึงต้องมีการบริหารจัดการดูต้นทุน รัดเข็มขัดในส่วนที่รัดได้ การจัดซื้อต้องดูอย่างละเอียด เพื่อจะได้ไม่ต้องไปลดสินค้าและบริการที่ให้กับลูกค้า รวมถึงต้องมีการออกแคมเปญต่างๆ เช่น ตัวเองก็มีการโพสต์ มีการทำคลิป ก็มีลูกค้าเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ตอนนี้ออนไลน์มีผลมาก เช่น อธิบายให้ลูกค้าเห็นว่า ใบหยกไม่ได้เป็นเป็นโรงแรมอย่างเดียว มีร้านอาหารด้วย”
นายปิยะเลิศ กล่าวต่อว่า ตนเป็นคนรุ่นใหม่ที่เข้าบริหารร่วมกับคุณพ่อ คุณพ่อก็ยังทำงานอยู่ สั่งซื้อของเองตนไม่ได้สานต่อ เป็นการเข้ามาเสริมทางพ่อ เช่น เรื่องออนไลน์ ผู้ใหญ่อาจรู้ไม่เท่ากัน ขณะที่ทางคุณพ่อ มีประสบการณ์มาก เราก็ต้องฟังประสบการณ์ของพ่อด้วย คนรุ่นใหม่ต้องฟังผู้ใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะคนฉลาดฟังมากกว่าพูดตนยังไม่ได้คิดว่าจะเข้ามาทำงานแทนคุณพ่อ เป็นการเสริมกันละกัน เพื่อให้ธุรกิจสามารถประสบความสำเร็จมากกว่า
“ปัจจุบันในกลุ่มใบหยกมีคนทุกเจนเนเรชั่น จึงต้องบริหารงานให้ทุกคนทำงานด้วยกันได้ รู้สึกสนุกกับการทำงานกับคนทุกเจน ต้องคิดบวก เช่น คนอายุมากมีประสบการณ์ เราต้องดูและฟังความสำเร็จของเขา ส่วนน้องๆ เด็กๆ เก่ง เรียนรู้เร็ว แต่ความอดทนอาจน้อย จึงต้องผสมผสานกัน ผู้บริหารต้องเวทน้ำหนักให้ดี ใช้บุคลากรให้ดี ถ้ามีเด็กอย่างเดียวอาจไม่ดี ต้องมีกลุ่มผู้ใหญ่ช่วยด้วย มองว่าผู้บริหารที่ดี จะต้องเข้าใจทุกเจนเนเรชั่น”
นายปิยะเลิศ กล่าวต่อว่า ปีหน้ากลุ่มใบหยก ก็จะหาอะไรใหม่ๆ ธุรกิจเราอยู่กับที่ไม่ได้เชื่อว่า ปีหน้าเศรษฐกิจก็อาจยังไม่ดีอย่างบริษัท เลิกพูดถึงตลาดจีนที่ยังไม่กลับมา เราต้องหาตลาดอื่นไปก่อน เมื่อตลาดจีนกลับมาถือว่าโบนัส โดยตอนนี้โรงแรมและร้านอาหารของกลุ่มใบหยก มีคนไทยเข้ามาใช้บริการเป็นอันดับ 1 แทบทั้งกรุ๊ป เราต้องหาโอกาสใหม่ๆ เรื่องการคอลแลปกับแบรนด์ หรือธุรกิจอื่นๆ เราก็มีการคุยและคิดอยู่ว่าอะไรจะเหมาะบ้าง อย่างไรก็ตาม หัวใจของการอยู่รอดอีกเรื่องคือ ทำธุรกิจอย่างจริงใจ ซื่อสัตย์ ต่อลูกค้า แล้วจะอยู่ได้ ยิ่งยุคนี้โซเซียลแรง ทำไม่ดี ก็จะพูดถึงในทางลบได้
“สิ่งสำคัญอีกอย่าง คือ อย่าไปทำอะไรเกินตัว ลงทุนให้พอดี มี 100 ไม่ต้องลงทุนถึง 60-70 ลงแค่ 20 ก็ได้ เมื่อธุรกิจดี กำไรดี แล้วค่อยลงทุนต่อ ค่อยๆ ใช้งบ เพราะปีหน้ายังไม่รู้ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดี โดยตนมองว่าสิ่งสำคัญปีหน้า ต้องขยันๆ อย่าไปท้อ คนเก่งไม่เท่าคนขยัน ผมก็ไม่เก่ง แต่เรื่องความขยัน ผมก็คิดว่าไม่แพ้ใคร จึงอยู่ได้ทำงานได้ถึงทุกวันนี้” นายปิยะเลิศ กล่าว

