พ่อค้าแม่ค้าสบายใจได้! เปิดลงทะเบียน "คนละครึ่งพลัส" 15 ต.ค. 68 ยืนยันร้านค้าไม่ถูกเก็บภาษีย้อนหลัง รัฐบาลย้ำไม่ส่งข้อมูลร้านค้าให้ “สรรพากร”

โครงการ “คนละครึ่งพลัส” ถูกเปิดตัวอีกครั้งเพื่อเป็นมาตรการสำคัญของรัฐบาลในการปลุกชีพเศรษฐกิจช่วงปลายปี 2568 ด้วยงบประมาณสูงถึง 4.4 หมื่นล้านบาท เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยและกระตุ้นการบริโภคในประเทศ อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือแพร่สะพัดออนไลน์ที่ทำให้ร้านค้าจำนวนมากเกิดความลังเล นั่นคือความกังวลว่าการเข้าร่วมโครงการจะนำไปสู่การถูก กรมสรรพากรตรวจสอบภาษีย้อนหลัง วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยและสรุปทุกสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องรู้ ทั้งเรื่องภาษี ไทม์ไลน์ และขั้นตอนการลงทะเบียน

1.ไขข้อกังวล ข้อมูลร้านค้าถูกส่งให้กรมสรรพากรหรือไม่?

นี่คือประเด็นหลักที่สร้างความไม่สบายใจให้กับผู้ประกอบการรายย่อย แต่กระทรวงการคลังได้ออกมา ยืนยันอย่างเป็นทางการ เพื่อขจัดความกังวลนี้แล้ว โดย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวอย่างหนักแน่นว่า “รัฐบาลให้ความสำคัญกับการ รักษาความลับของข้อมูล ผู้ประกอบการและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการอย่างเคร่งครัด จะไม่มีการส่งต่อข้อมูลรายได้ ของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการให้กับ กรมสรรพากร อย่างเด็ดขาด” ไม่ว่าจะเพื่อวัตถุประสงค์ในการ ตรวจสอบภาษีย้อนหลัง หรือวัตถุประสงค์อื่นใด

พร้อมเน้นย้ำว่าเข้าใจความกังวลของร้านค้ารายย่อย และมีเจตนาเพียงเพื่อ สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจฐานราก เป็นสำคัญ โดยไม่มีเจตนาที่จะสร้างภาระเพิ่มเติมทางภาษีใด ๆ “ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงสามารถเข้าร่วมโครงการ คนละครึ่งพลัส ได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการถูก ตรวจสอบภาษี จากรายรับในส่วนนี้”

2.ไทม์ไลน์สำคัญที่ร้านค้าห้ามพลาด!

-การลงทะเบียนร้านค้า 15 ตุลาคม – 19 ธันวาคม 2568

-การลงทะเบียนสำหรับประชาชน 20 – 26 ตุลาคม 2568

-ช่วงเวลาการใช้สิทธิ 29 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568

-เงื่อนไขการใช้สิทธิครั้งแรกของประชาชน ต้องใช้สิทธิก่อนวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 (23:00 น.)

-ช่วงเวลาใช้บริการ Food Delivery 7 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2568

3.วิธีลงทะเบียนสำหรับร้านค้า ผ่าน 2 ช่องทางหลัก

ขั้นตอนการลงทะเบียนสำหรับร้านค้า คนละครึ่งพลัส ถูกออกแบบมาให้ง่ายและรวดเร็ว โดยแบ่งตามสถานะของร้านค้า

-ร้านค้าเดิม (เคยร่วมโครงการระยะที่ 5) สามารถลงทะเบียนผ่าน แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ได้ทันที

-ร้านค้าใหม่ (รวมถึงผู้ประกอบการบริการและขนส่ง) ส่วนใหญ่สามารถลงทะเบียนผ่าน สาขาของธนาคารกรุงไทย

ข้อควรทราบสำหรับร้านค้าใหม่ หากข้อมูลของร้านค้าใหม่ไม่ปรากฏในฐานข้อมูลภาครัฐ จะต้องได้รับการยืนยันการประกอบกิจการจริงจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก่อน จึงจะสามารถนำใบสมัครไปยื่นที่ธนาคารได้

-ร้านค้าขนส่งมวลชนสาธารณะใหม่ สามารถเปิดใช้งาน แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” โดยตรงกับธนาคารกรุงไทย..