พิชัย เบรกใช้เงินกระตุ้น 1.57 แสนล้าน ทำรถไฟฟ้า 20 บาท

2025-05-28 IDOPRESS

พิชัย เบรกใช้เงินกระตุ้น 1.57 แสนล้าน ทำรถไฟฟ้า 20 บาท หาทางออกอื่นให้ ย้ำไม่แทรกแซงค่าบาท

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่า รัฐบาลอาจใช้งบประมาณ 1.57 แสนล้านบาท เพื่ออุดหนุนโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ว่า ขณะนี้ยังไม่มีแผนในเรื่องดังกล่าว และส่วนตัวยังไม่เคยได้ยินแนวทางนี้จากที่ใด โดยเรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะงบประมาณกระตุ้นฯ ควรใช้กับโครงการขนาดใหญ่ที่สร้างผลตอบแทน เช่น ระบบน้ำเพื่อเกษตรอุตสาหกรรม มากกว่าจะไปใช้ในโครงการระยะสั้น

“หลักการของการใช้งบ 1.57 แสนล้านบาท ระบุว่า จะต้องมีความจำเป็นและก่อให้เกิดผลต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม ดังนั้น งบประมาณ 1.57 แสนล้านบาท ยังไม่น่าใช่ และยังไม่เคยได้ยินว่ามีการพูดในประเด็นนี้ ส่วนตัวได้นำเรื่องนี้มาคิดอยู่หลายชั่วโมง ซึ่งเรามีวิธีหาทางออกให้ โดยทุกอย่างต้องคิดแบบรอบคอบ”

นายพิชัย กล่าวว่า ส่วนกรณีค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นช่วงนี้ เนื่องจากมีเงินทุนต่างชาติไหลเข้าประเทศ เพราะไทยมีเงินสำรองระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะเป็นระยะสั้นหรือยาว ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะสถานการณ์การค้าโลกและความเชื่อมั่นต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยย้ำว่าประเทศไทยยังยึดหลักไม่แทรกแซงค่าเงินโดยตรง

“ตอนนี้ยังไม่มีใครตอบได้ชัดว่าเงินบาทจะแข็งไปอีกนานแค่ไหน หรือจะกลับมาอ่อนค่าเมื่อไร ทั้งหมดขึ้นอยู่กับทิศทางเศรษฐกิจโลกและเงินทุนเคลื่อนย้าย แต่ไทยยังไม่มีนโยบายเข้าไปแทรกแซงค่าเงินโดยตรง แต่อาจจะหากลไกทำอย่างไรให้ค่าเงินบาทไม่เสียเปรียบประเทศอื่น”

สำหรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 69 แม้ว่ากรอบงบรายจ่ายเพิ่มขึ้นน้อยกว่าปีงบ 68 แต่ถ้าดูงบรายจ่ายลงทุนแล้วไม่ได้มีการลดลง แต่ไปลดค่าใช้จ่าส่วนอื่น ซึ่งการพิจารณางบปี 69 จะเข้าสู่รัฐสภาในวันที่ 28 พ.ค. นี้ อยากฝากคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ โดยดูให้เป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่มีความต่อเนื่องไปหลายปี

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์2009-2020 ข่าวการเงินกรุงเทพธุรกิจ      ติดต่อเรา   SiteMap