ตลท.จ่อปรับ Uptick Rule รายตัว

2025-01-17 HaiPress

ตลท.เล็งทบทวนทุกมาตรการ เตรียมชงบอร์ดพิจารณาปลายเดือนนี้ พร้อมศึกษาปรับ Uptick Rule รายตัว

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.เตรียมทบทวนมาตรการต่างๆเพื่อเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)ของตลาดหลักทรัพย์ฯภายในช่วงปลายเดือน ม.ค.นี้ โดยเรื่องการทบทวนการใช้เกณฑ์อัพติ๊ก รูล หุ้นที่ถูกชอร์ตเซลล์นั้น ยอมรับว่า ตลท.จะมีการรีวิวทุกมาตรการที่ออกมาเป็นระยะอยู่แล้ว เพราะภาวะตลาดหุ้นที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งต้องคำนึงถึงภาพรวมและยอมรับว่ามีหลายมาตรการที่จะถูกทบทวน อย่างไรก็ตามหากประเมินแล้วสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปก็สามารถปรับเปลี่ยนเกณฑ์ดังกล่าวได้


ทั้งนี้ อัพติ๊ก รูล เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ต้องดู เพราะว่าต้องสมดุลระหว่างวอลุ่มทั้งหมดและความผันผวนของตลาดที่เหมาะสม ซึ่งส่วนตัวเห็นด้วยหากในภาวะที่ตลาดผันผวนแบบนี้มาตรการบางอย่างอาจมีส่วนทำให้ตลาดอยู่ในช่วงขาลงมากขึ้น เพราะในช่วงที่ผ่านมาการทำชอร์ตเซลล์อาจเป็นตัวที่ทำให้ตลาดหุ้นลงเกินไปซึ่งก็เข้าใจได้ แต่ต้องมานั่งดูว่า ณ วันนี้ในสภาวะตลาดแม้จะไม่ใช่ขาขึ้น แต่อยู่คงที่มั่นคง ซึ่งตัวอัพติ๊ก รูล อาจทำให้ชอร์ตเซลล์มีน้อยเกินไปหรือไม่


นอกจากนี้ ตลท.กำลังพิจารณาว่าจะมีมาตรการที่เสริม หรือถอนออกได้ด้วย ซึ่งต้องดูองค์ประกอบโดยรวมว่าจะปรับปรุงและปรับการใช้ในสภาวะไหน หรือจะมีการเจาะจงหุ้นหรือไม่ อาทิ อัพติ๊ก รูลแทนที่นำมาใช้ที่ทุกบริษัทที่ชอร์ตเซลล์ได้ อาจมาปรับเป็นในจังหวะของแต่ละหุ้นดี ซึ่งเรื่องนี้ยังเป็นแนวคิดที่กำลังศึกษากันอยู่และต้องไปผนวกกับการศึกษาของสำนักงาน ก.ล.ต. ด้วย เพราะต้องดูความเหมาะสมที่ดีที่สุด ส่วนด้านมาตรการอื่นๆ อาทิ กฎกรอบราคาสูงสุด และราคาต่ำสุด อาจมีการพิจาณาทบทวนทั้งหมดด้วย


อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ตลท.มีการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกันตลอด ซึ่งมาตรการต่างๆที่ออกมาต้องเผยแพร่เป็นระยะเพื่อให้เหมาะสม ซึ่งไม่เพียงเผยแพร่มาตรการอัพติ๊ก รูลเท่านั้น แต่ได้เผยแพร่มาตรการทั้งหมดด้วย


นายอัสสเดช กล่าวว่า ตลท.ยังได้พัฒนาระบบเซ็ต คาร์บอน ให้เป็นเครื่องมือจัดการข้อมูลและคำนวณข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มความน่าเชื่อถือ โดยระบบเปิดให้องค์กรธุรกิจใช้งาน 16 ม.ค.68 เป็นต้นไป จากปัจจุบันภาครัฐและผู้ลงทุนมีความต้องการข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์มากขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 67 มี บจ.ไทยประมาณ 30% ที่สามารถเปิดเผยข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้อย่างครบถ้วน และยังมี บจ.อีกจำนวนมากที่ต้องการเครื่องมือช่วยจัดทำรายงานดังกล่าวให้รองรับกับกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนสีเขียว

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์2009-2020 ข่าวการเงินกรุงเทพธุรกิจ      ติดต่อเรา   SiteMap