เปิด 10 ธุรกิจ ‘ดาวรุ่ง-ดาวร่วง’ ปี 68 เกาะกระแสเมกะเทรนด์โลก

2024-12-23 IDOPRESS

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดชื่อ 10 ธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วงปี 68 เกาะเมกะเทรนด์โลก ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล อี-คอมเมิร์ซ ท่องเที่ยว ซอฟต์พาวเวอร์ การเงิน ส่วนดาวร่วง หนีไม่พ้นเช่าซีดี/ดีวีดี สื่อสิ่งพิมพ์ ส่งสิ่งพิมพ์ สิ่งทอ/เครื่อ่งนุ่งห่ม เฟอร์นิเจอร์

นายวชิร คุณทวีเทพ ผู้อำนวยการ สถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการวิเคราะห์ 10 ธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วงปี 68 โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนด้านยอดขาย ต้นทุน กำไรสุทธิ ผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงและภาวะแข่งขัน และความต้องการ/กระแสนิยม รวม 100 คะแนน ว่า ผลการวิเคราะห์พบว่า 10 ธุรกิจดาวรุ่งมีคะแนนอยู่ระหว่าง 95.8-90.2 คะแนน

อันดับ 1 ได้แก่ ธุรกิจการแพทย์และความงาม ธุรกิจ Cloud Service และธุรกิจบริการ Cyber Security จากนโยบายฟรีวีซ่าของภาครัฐ และการขยายตัวของตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การก้าวสู่สังคมผู้สูงวัย การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและภัยคุกคามทางไซเบอร์

อันดับ 2 Social Media และ Online Entertainment,ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์,ธุรกิจ Youtuber การรีวิวสินค้า และ Influencer จากเทรนด์พฤติกรรมการบริโภคของคนไทยที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตในชีวิตประจำวันมากขึ้น ความสะดวกสบายและการเข้าถึงง่าย การเติบโตของแพลตฟร์มสตรีมมิ่ง เช่น Netflix,Disney+ ฯลฯ

อันดับ 3 ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ,ธุรกิจซอฟต์พาวเวอร์ไทย โดยเฉพาะซีรีส์ ภาพยนตร์ โฆษณาและสื่อออนไลน์ จากนโยบายแจกเงินหมื่นที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และกำลังซื้อผู้บริโภค พฤติกรรมการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น การเติบโตของแพลตฟอร์มออนไลน์ การรีวิวสินค้าของผู้มีชื่อเสียง รัฐมีนโยบายสนับสนุนซอฟต์พาวเวอร์ การฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

อันดับ 4 งานคอนเสิร์ต,มหกรรมจัดแสดงสินค้า,ธุรกิจอีเวนต์,เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภาครัฐกระตุ้นการท่องเที่ยว การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวหนุนการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ใหม่ๆ

อันดับ 5 ธุรกิจความเชื่อ (สายมู หมอดู ฮวงจุ้บ),ธุรกิจเงินด่วน,โรงรับจำนำ,ธุรกิจประกัน โดยธุรกิจสายมู เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับการผลักดันให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อสร้างเศรษฐกิจ นักท่องเที่ยวศรัทธามากขึ้น ผู้มีอิทธิพลทางความคิดสร้างความน่าเชื่อให้กับธุรกิจ มีรูปแบบสินค้าใหม่ ค่าครองชีพสูงทำให้คนต้องพึ่งพาเงินด่วน โรงรับจำนำมากขึ้น

อันดับ 6 ธุรกิจการให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม เช่น แม่บ้านรายวัน การซ่อมแซมอุปกรณ์,ผับ บาร์ คาราโอเกะ จากพฤติกรรมคนยุคใหม่ที่เร่งรีบ ไม่มีเวลาทำความสะอาดบ้าน การเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ภาครัฐผ่อนปรนเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิง

อันดับ 7 คลีนิคกายภาพ,ธุรกิจให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า และติดตั้ง,ธุรกิจรถยนต์อีวี,ธุรกิจสัตว์เลี้ยง ขายอาหาร อุปกรณ์และแฟชั่น และดูแลสัตว์ จากการที่คนยุคใหม่ทำงานหนัก เกิดปัญหาสุขภาพ การเติบโตของธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) รวมถึงเทรนด์การเลี้ยงสัตว์เป็นสมาชิกในครอบครัว

อันดับ 8 ธุรกิจด้านการเงินธนาคาร,ฟินเทค และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี ธุรกิจตู้หยอดเหรียญเครื่องดื่ม อาหาร และธุรกิจเครื่องสะดวกซัก,ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ทัวร์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง จากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้คนทำธุรกรรมทางออนไลน์มากขึ้น อีกทั้งคนยุคใหม่อยู่ในพื้นที่จำกัด เช่น คอนโค และต้องการความสะดวก สบาย รวมถึงการท่องเที่ยวฟื้นตัว

อันดับ 9 ธุรกิจโทรคมนาคมและสื่อสาร เช่น ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต หรือสัญญาณสื่อสารต่างๆ,ธุรกิจโลจิส ติกส์ ดีลิเวอรรี่และคลังสินค้า,ทนายความและตรวจสอบบัญชี,สตรีทฟูด และตลาดนัดกลางคืน จากการเติบโตของดิจิทัลคอนเทนต์ มีการพัฒนาเส้นทางขนส่งเชื่อมต่อพื้นที่เศรษฐกิจ ความสะดวกสบาย

อันดับ 10 ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ธุรกิจพลังงานทดแทน เช่น โซลาร์เซลล์ โรงพยาบาล คลินิก เกี่ยวกับสัตว์

ส่วน 10 ธุรกิจดาวร่วงปี 68 ได้แก่ 1.ธุรกิจจำหน่ายและให้เช่าซีดี ดีวีดี 2.ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ที่ไม่มีแพลตฟอร์ออนไลน์ 3.ธุรกิจคนกลางผลิตและจำหน่ายที่เก็บข้อมูล เช่น ซีดี ดีวีดี ทรัมป์ไดรฟ์ การ์ดอื่นๆ 4.บริการส่งหนังสือพิมพ์ 5.ธุรกิจผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม 6.ธุรกิจถ่ายเอกสาร 7.ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบดั้งเดิม ไม่มีการออกแบบ 8.ธุรกิจรถยนต์มือสอง 9.ร้านขายเครื่องล่นเกม และ 10.ธุรกิจร้านโชห่วย

ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การวิเคราะห์ข้อมูล 10 ธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วง มาจากภาพของเศรษฐกิจไทย ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังอิงกับเทรนด์ของโลก และของไทย ซึ่งจากการให้ AI วิเคราะห์ข้อมูล พบว่า 10 เทรนด์ของโลก ที่ส่งผลถึงธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วง ได้แก่ 1.AI 2.Metaverse 3. Digital Asset 4.สิ่งแวดล้อม 5.สุขภาพ ความงาม 6.อี-คอมเมิร์ซ 7.โซเชียลมีเดีย 8.การทำงานจากที่ไหนก็ได้ 9.การทำการตลาดส่วนบุคคล 10.ความมั่นคงทางไซเบอร์

ส่วน 10 เทรนด์ของไทย ได้แก่ 1.สะดวกสบาย 2.สะอาด สุภาพ สวยงาม 3.สิ่งแวดล้อม 4.สมัยใหม่ 5.สำราญบันเทิง 6.สร้างสรรค์ 7.เสี่ยง จึงเกิดธุรกิจป้องกันความเสี่ยง ประกันภัย ประกันชีวิต 8.สะสม คือการออม เพื่อความมั่งคั่ง เพื่ออนาคต 9.สโมสร สร้างเครือข่าย การรวมกลุ่ม 10.สวดมนต์ สายมู

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์2009-2020 ข่าวการเงินกรุงเทพธุรกิจ      ติดต่อเรา   SiteMap