“เอกชนท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่” จ่อชงรัฐบาลเร่งโครงการป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจเชียงใหม่
2024-11-29 HaiPress
"เอกชนท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่" เตรียมเสนอรัฐบาลเร่งโครงการป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจเชียงใหม่ ช้างคลาน-ไนท์บาซาร์ ชงทำโครงการพนังกั้นน้ำปิง จี้เร่งโครงการอุโมงค์ผันน้ำแม่งัด-แม่กวง ขอแก้ปัญหาฝุ่นข้ามแดน
น.ส.วารุณี คำเมรุ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าในวันที่ 30 ธ.ค. นี้ ภาคเอกชนจังหวัดเชียงใหม่จะประชุมร่วมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อเสนอโครงการที่สำคัญในการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ โดยในส่วนของภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวจะเสนอโครงการที่จำเป็นในการป้องกันอุทกภัยในพื้นที่เชียงใหม่ 2 โครงการได้แก่
1.โครงการพนังกั้นแม่น้ำปิงความยาวประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ และพื้นที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะในพื้นที่ถนนช้างคลาน-ไนท์บาซาร์ ซึ่งในปีนี้ถูกน้ำท่วม ทำให้เกิดความเสียหายประมาณ 300 ล้านบาท โดยโครงการนี้มีการทดลองทำแล้วในพื้นที่ ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งครั้งที่ผ่านมา สามารถป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าวได้ และสามารถพัฒนาแนวพนังกั้นแม่น้ำเป็นทางเดิน (walk way) ริมแม่น้ำเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวได้
2.ขอให้รัฐบาลเร่งรัดโครงการอุโมงค์ผันน้ำแม่งัด-แม่กวง ซึ่งเป็นโครงการที่จะช่วยผันน้ำจากแม่แตง/แม่ริม ที่จะเข้ามาสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ไปยังเขื่อนแม่งัดได้ ซึ่งจะช่วยให้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้ ซึ่งโครงการนี้ภาคเอกชนเชียงใหม่ได้ติดตามความคืบหน้ามาเป็นระยะๆ ซึ่งหากโครงการนี้สามารถเร่งการก่อสร้างได้เร็วขึ้น ก็จะช่วยป้องกันน้ำท่วม จ.เชียงใหม่ ได้ด้วย
นอกจากนี้ในแผนการช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวในกรณีที่เกิดน้ำท่วม ก็จะเสนอให้รัฐบาลมีการมอบหมายหน่วยทหารที่เป็นหน่วยงานเฉพาะ ให้เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือหากกรณีเกิดปัญหาน้ำท่วมขึ้นอีกในอนาคต
สำหรับการแก้ปัญหาหมอกควันที่กระทบกับภาคท่องเที่ยว ถือเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่งของจังหวัดท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนืออย่าง จ.เชียงใหม่ เพราะทำให้ช่วงเวลาช่วงไฮซีซั่นของเชียงใหม่ลดลง จากปีละ 8 เดือน เหลือเพียงปีละ 4 เดือน ซึ่งในช่วง พ.ย. ถึง ก.พ. ของแต่ละปี จะมีปัญหาเรื่องหมอกควันที่กระทบกับภาคท่องเที่ยว โดยมี 4 แผนที่จะดำเนินการ โดยในส่วนที่จะขอให้ภาครัฐเร่งแก้ปัญหาคือเรื่องของหมอกควันข้ามพรมแดนที่จะต้องไปหารือกับประเทศใกล้เคียงในการแก้ปัญหาร่วมกัน รวมทั้งขอให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนงบประมาณในการทำฝนเทียมเพิ่มขึ้น
สำหรับมาตรการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากโครงการแอ่วเหนือคนละครึ่งซึ่งมีการอนุมัติโครงการนี้ 10,000 สิทธิ ซึ่งอาจยังไม่ตอบโจทย์เรื่องฟื้นเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคเหนือมากนัก จึงอยากเสนอให้รัฐบาลฟื้นโครงการเที่ยวคนละครึ่ง ซึ่งโครงการนี้จะมาช่วยเติมจำนวนนักท่องเที่ยวให้กับเชียงใหม่ในช่วงโลว์ซีซั่น เพื่อให้สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (29 พ.ย.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ครั้งแรกของรัฐบาลแพทองธาร ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ นางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการ ครม. เปิดเผยว่า สำหรับโครงการที่จะมีการเสนอเข้า ครม.สัญจรในครั้งนี้ จะมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับในพื้นที่ได้แก่ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ บริหารจัดการน้ำ เตรียมความพร้อมโครงการ และฟื้นฟูโครงการที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย 3,000 ล้านบาท และโครงการแก้ปัญหาฝุ่นพิษและหมอกควัน
สำหรับโครงการขนาดใหญ่ที่จะใช้งบประมาณจำนวนมาก ที่เดิมคาดการณ์ว่าจะสามารถเข้าสู่การพิจารณาใน ครม. ครั้งนี้ ได้แก่ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านผู้สูงอายุด้วยการแจกเงิน 10,000 บาท ที่มีกลุ่มเป้าหมายนี้ไม่เกิน 4 ล้านคน โดยใช้เงินงบประมาณ 40,000 ล้านบาท หรือโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินหมื่นเฟส 2 และโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปัจจัยการผลิตชาวนาปีการผลิต 67/68 ไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ วงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาท ยังไม่ทันที่จะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ในครั้งนี้ เนื่องจากจะต้องมีขั้นตอนในการขอความเห็นจากหน่วยงานราชการ และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะต้องเซ็นชื่อประกอบความเห็นก่อนที่จะนำเสนอ ครม. คาดว่าจะเข้าสู่การประชุม ครม. ในวันที่ 3 ธ.ค. นี้