‘สนั่น’ ยินดี ‘อุ๊งอิ๊ง’ นายกฯคนใหม่ ชี้เศรษฐกิจไทยต้องการฟื้นตัวเร่งด่วน
2024-08-18 HaiPress
"สนั่น" ประธานหอการค้าฯ แสดงความยินดี "อุ๊งอิ๊ง" นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 เชื่อกระบวนการเสร็จเร็วสร้างความเชื่อมั่น ชี้เศรษฐกิจไทยในระยะสั้นยังต้องการการฟื้นตัวอย่างเร่งด่วน
วันที่ 16 ส.ค. นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้าไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทย ต้องขอแสดงความยินดีกับคุณแพทองธาร ชินวัตร ที่ได้รับความไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎร ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 มุมมองของหอการค้าไทย
ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี ที่สภาสามารถมีมติเห็นชอบได้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากนี้เป็นขั้นตอนของการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี และการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งหลังจากจบกระบวนการตามกฎหมายแล้วเสร็จ จะเป็นส่วนช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมาได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับมุมมองเศรษฐกิจไทยในระยะสั้นยังต้องการการฟื้นตัวอย่างเร่งด่วน ดังนี้
รักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่แข็งค่ามากเกินไป ซึ่งจะเอื้อต่อภาคการส่งออก โดยเฉพาะสินค้าเกษตร และช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวให้เติบโตต่อเนื่องการรักษาโมเมนตัมภาคการท่องเที่ยว โดยเฉลี่ยนักท่องเที่ยวเข้ามาเดือนละ 3 ล้านคน ส่วนนี้อยากให้มีการผลักดันและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว รวมไปถึงการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ตลอดจนการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและบริการ เพื่อให้นักท่องเที่ยวปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 36-37 ล้านคน
ขณะเดียวกัน ควรรณรงค์ “เมืองน่าเที่ยว” อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การท่องเที่ยวโดดเด่นและเกิดการกระจายตัว กระจายรายได้จากแหล่งท่องเที่ยวเมืองหลักไปสู่เมืองน่าเที่ยว รวมถึงเดินหน้าแผนการกระจายการลงทุนไปจังหวัดนำร่อง 10 จังหวัด ที่หอการค้าฯ ได้ทำร่วมมาช่วงก่อนหน้านี้ต่อ
การเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศ เพื่อให้การส่งออกของไทยให้ขยายตัวได้ในช่วงที่เหลือไม่ต่ำกว่า 2% ต่อเนื่องจากที่ช่วงก่อนหน้านี้ไปเชิญชวนให้มีการเจรจาและเชิญหลายบริษัทมาลงทุนที่ประเทศไทยการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 ให้กระจายไปทุกภูมิภาค ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างเด่นชัด และควรเร่งจัดทำงบประมาณปี 68 ให้เสร็จสิ้นตามกระบวนการหรือในกรอบระยะเวลาที่กำหนด เพื่อไม่ให้ยืดเยื้อในปีที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน ทั้งมาตรการเยียวยาและการกระตุ้นเศรษฐกิจถือเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง รวมถึง มาตรการปกป้องและช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ได้รับความเดือดร้อนจากสินค้านำเข้าที่ทะลักเข้ามาในประเทศ โดยเฉพาะสินค้าจากจีนพรรคร่วมรัฐบาลจำเป็นต้องทำงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพ เพื่อให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพ สร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเข้ามาลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชนที่เป็นตัวจริงด้านการค้า และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ซึ่งเราเองก็มีหอการค้าในทุกจังหวัดที่พร้อมจะทำงานสนับสนุนร่วมกันกับภาครัฐ
ทั้งนี้ สิ่งที่ภาคเอกชนเห็นคือการที่มีนายกรัฐมนตรีได้เร็วทำให้ประเทศไม่เกิดสุญญากาศ ส่วนนี้ทำให้เรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้เร็ว ส่วนเรื่องที่เรามีนายกฯ หญิงที่อายุน้อยนั้น ประเด็นนี้มองว่าขึ้นอยู่ที่การแสดงความเป็นผู้นำและการบริหารราชการแผ่นดินหลังจากนี้
สำหรับความพร้อมของการบริหารงานที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลก็เชื่อว่า พรรคเองมีความพร้อมด้านบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในทุกด้านอยู่แล้ว ซึ่งภาคเอกชนอยากเห็นการทำงานเป็นทีมกับพรรคร่วมรัฐบาลมากขึ้น ก็จะทำให้การทำงานของ ครม. ชุดใหม่ มีเอกภาพและเสถียรภาพ
นอกจากนี้ หลายมาตรการของอดีตนายกฯ เศรษฐา โดยเฉพาะการเปิดประตูการค้า และการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ สิ่งเหล่านี้รัฐบาลชุดใหม่จำเป็นต้องเดินหน้าสานต่อ โดยมีการกำหนดกระทรวงหรือผู้รับผิดชอบขึ้นเพื่อติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงการเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการที่เกี่ยวข้อง Soft Power ส่วนนี้หอการค้าเห็นว่าเป็นเรื่องที่ประเทศไทยมีความได้เปรียบและสามารถที่จะต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจของไทยได้อยู่แล้ว ซึ่งเอกชนเห็นด้วยว่าควรเดินหน้าขับเคลื่อนในประเด็นนี้ต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน การดึงดูดอุตสาหกรรมใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล ยังเป็นปัญหาของไทยที่ยังขาดบุคลากรที่มีความพร้อมในด้านทักษะที่เพียงพอ ตลอดจนปัญหาด้านต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ยังสูงและกฎหมายที่ล้าสมัยไม่เอื้อต่อการเข้ามาลงทุน สิ่งเหล่านี้เป็นโจทย์ที่รัฐบาลต้องแก้ไข ซึ่งนอกจากที่รัฐบาลจะเป็นเซลส์แมนแล้วจะต้องปิดการขายให้ได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาประเทศไทยมีจีดีพีเติบโตเฉลี่ย 2% ซึ่งต่ำกว่าศักยภาพและไม่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ดังนั้น ในระยะกลางและระยะยาว เป็นโจทย์สำคัญที่รัฐบาลต้องวางกลยุทธ์สำหรับประเทศ เพื่อทำให้จีดีพีของไทยเติบโตไม่ต่ำกว่า 3-5% ต่อปี