UNISOC T610 มีประสิทธิภาพการทำงานแข็งแกร่งแค่ไหน ข้อมูลเหล่านี้จะมีคำตอบสำหรับ Qualcomm Snapdragon 665

2021-08-02 Dek-D

ผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อประสิทธิภาพการทำงานของ CPU โทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยโทรศัพท์ที่ทำงานได้อย่างดีเยี่ยมไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถรับชมวิดีโอและเล่นเกมได้อย่างไร้อุปสรรคและมีความสุข แต่ยังสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ

อุปกรณ์จำนวนมากที่เพิ่งเปิดตัวสู่ตลาด อาทิ Hisense Color Ink Reading Cellphone, Education Tablet E22 และ Eye-Protection Tablet Q5 ต่างมาพร้อมกับแพลตฟอร์ม UNISOC T610

แพลตฟอร์มนี้มีประสิทธิภาพการทำงานอย่างไร ข้อมูลค่าการทำงาน มีดังต่อไปนี้: T610 ได้นำกระบวนการทำงาน 12nm มาปรับใช้ซึ่งประกอบด้วย 1.8 GHz Arm Cortex-A75 CPU สองตัวและ 1.8 GHz Arm Cortex-A55 หกตัว นอกจากนี้ยังมีการใช้ 614.4MHz Mali G52 ใน GPU


การปรับแต่งค่าจำเพาะของ UNISOC T610 ดังต่อไปนี้:


ในการปรับแต่งค่าการทำงาน ใช้โปรเซสเซอร์โทรศัพท์แบบมิดเอนด์ โดยหากเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำงานกับคู่แข่งอย่าง Snapdragon 665 ข้อมูลการประเมินจากAnTuTu V8.0.5 ได้แสดงไว้ดังนี้:


ตามที่แสดงบนตารางข้างต้น UNISOC T610 ได้คะแนนรวมมากกว่า Snapdragon 665 ซึ่งคะแนนรวมหมายถึงองค์ประกอบโดยรวมของ UNISOC T610 นั้นยอดเยี่ยมมาก สำหรับผู้บริโภคจะสามารถสัมผัสได้ถึงการเปิดใช้งานแอปที่รวดเร็วกว่าเดิมและประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งกว่า โดยการเปิดใช้แอปแสดงถึงกระบวนการทำงานทั้งหมดตั้งแต่การคลิกที่แอปไอค่อนจนถึงการปรากฏของอินเตอร์เฟสซอฟต์แวร์ที่ไม่มีการระงับการทำงานจากส่วนหลังของแอป

ด้วยกลไกของระบบแอนดรอยด์ แต่ละครั้งที่เปิดใช้งานแอป ระยะเวลาที่เปิดหน้าเพจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และผู้ใช้งานไม่สามารถทำอะไรได้ในส่วนนี้ ดังนั้น ระยะเวลาการเปิดใช้งานแอปจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งต่อประสบการณ์ผู้ใช้ ถึงแม้ว่าผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดในการเปิดใช้งานแอปอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพการทำงาน ซีพียู หน่วยจัดเก็บข้อมูลภายใน ความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลของเครื่องที่ต่างเป็นตัวกำหนดเวลาในการเปิดใช้งานแอปทั้งสิ้น

ข้อมูลเปรียบเทียบระหว่าง UNISOC T610 และ Snapdragon 665 หลังจากทดสอบเวลาในการเปิดใช้งานแอปทั่วไปทั้งหมด 14 แอป พบว่าโทรศัพท์ UNISOC T610 สามารถเปิด 11 แอปได้เร็วกว่าไม่มากและอีก 4 แอปที่เปิดได้เร็วกว่าอย่างมาก

รูปที่ 3: เวลาเปิด APP


ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมของ UNISOC T610 จะช่วยให้ผู้ผลิตเทคโนโลยี 4G มีตัวเลือกมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าผู้ผลิตส่วนใหญ่ต่างหันมาผลิตอุปกรณ์รุ่นที่รองรับ 5G แต่โทรศัพท์ 4G ยังครองตลาดอยู่ จากข้อมูลของ GSMA พบว่า 4G เป็นเทคโนโลยีมือถือที่ครองตลาดในปี 2019 รองรับการเชื่อมต่อทั่วโลกกว่าครึ่ง(52%) และ 4G จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีที่จะถึงนี้ โดยคิดเป็น 56% ภายในปี 2025

นี่คือสาเหตุหลักว่าทำไมผู้ผลิตชิพมือถือแพลตฟอร์ม 4G จึงมีการแข่งขันกันสูง โดย UNISOC ได้เปิดตัว UNISOC อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น UNISOC T610, UNISOC T618, UNISOC T710 and two 5G chips, UNISOC T7510 และ UNISOC T7520 ในแต่ละช่วงสามารถสร้างปรากฏการณ์ทางเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่แข่งขันกันได้ในแต่ละขั้นซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาระยะยาวในอนาคต

ข้อมูลติดต่อ:

บริษัท: UNISOC Technologies Co., Ltd

เว็บไซต์: www.unisoc.com

ผู้ติดต่อ: Yueying Tang, PR Team

อีเมล: yueying.tang@unisoc.com

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์2009-2020 ข่าวการเงินกรุงเทพธุรกิจ      ติดต่อเรา   SiteMap